ตู้ที่ 1 หลวงปู่เทพโลกอุดร
หลวงปู่เทพโลกอุดร หรือ หลวงปู่ใหญ่ เป็นพระภิกษุที่คอยแนะนำผู้ที่ปฏิบัติธรรมมาหลายยุคหลายสมัย ตามตำนานเชื่อว่าท่านคือพระอุตรเถระ ที่เดินทางมาเผยแผ่พระพุทธศาสนาบริเวณดินแดนสุวรรณภูมิ ในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช เมื่อประมาณ พ.ศ. ๒๓๖ หรือ 2,330 ปี มาแล้ว เชื่อกันว่าท่านเป็นพระอรหันต์ แต่ยังไม่ดับขันธ์ ใช้วิธีเจริญฌาน อิทธิบาทสี่ ต่ออายุเพื่อช่วยเหลือพระภิกษุให้บรรลุธรรม สืบอายุพุทธศาสนามาจนถึงปัจจุบัน
ให้อธิฐานขอพร ให้มีปัญญา มีความสุข มีความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรม
ตู้ที่ 2 หลวงปู่ทวดเหยีบน้ำทะเลจืด
เป็นพระสงฆ์สมัยอยุธยา 430 ปีผ่านมาแล้ว พุทธคุณเด่นด้านแคล้วคลาดปลอดภัย
ให้อธิฐานขอพรเรื่องการเดินทางไปไหนๆ ขอให้แคล้วคลาดปลอดภัย
คาถาบูชาหลวงปู่ทวด
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ
นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา
นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา
นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา
มีความหมายว่า " ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแด่เจ้าประคุณสมเด็จหลวงปู่ทวด ผู้เป็นพระโพธิสัตว์ เป็นผู้มีโชคซึ่งเข้ามาสถิตอยู่ในตัวของข้าพเจ้านี้
ตู้ที่ 3 สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี
สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) เชี่ยวชาญวิชชาคาถาอาคม เมตตามหานิยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัตถุมงคล "พระสมเด็จ" ที่ท่านได้สร้างขึ้นเพื่อเป็นพุทธบูชา ได้ถูกจัดเข้าในพระเครื่องเบญจภาคี หรือสุดยอดของพระเครื่องวัตถุมงคล 1 ใน 5 ของประเทศไทย[2] และมีราคาซื้อขายในปัจจุบันต่อองค์เป็นราคานับล้านบาท
พระคาถาบูชาองค์พระสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังษี
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3จบ)
พรหมรังษี เมตตาบารมี จุติจุตัง อะระหังจุตติ นะโมพุทธายะ
นะมะพะทะ จะภะกะสะ มะอะอุ มะอะอุ มะอะอุ ภะคะวา
อธิฐาน ขอให้เป็นผู้เป็นที่รักใคร่ของผู้ได้พบเห็น ร่ำรวย มีโชคลาภ มีความสุข
ตู้ที่ 4 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเก้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงม้าพร้อมศาตราวุธ
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 5 แห่งราชวงศ์จักรี
พระราชกรณียกิจที่สำคัญ เลิกทาส นำ ระบบการใช้ธนบัตรและ เหรียญบาท สร้างระบบเขตการปกครองใหม่ เช่น จังหวัด อำเภอ และได้มีการสร้างรถไฟ
ความเชื่อเรื่องหากบูชาเสด็จพ่อ ร.5 แล้วนั้น จะส่งผลทำให้ทำมาค้าคล่อง มีความสุขความเจริญ ตำแหน่งหน้าที่การงานก้าวไกล ให้มีโชคลาภในการประกอบอาชีพ ปลดหนี้ได้ และมีเมตตามหานิยม ถวายดอกกุหลาบสีชมพู
พระคาถาบูชาเสด็จพ่อรัชกาลที่ 5
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 จบ)
อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธะนาเมอิ อิเมนา พุทธะตังโสอิ อิโสตัง พุทธะปิติอิ พระสะยามะมินโท วะโร อิติ พุทธะสังมิ อิติ อะระหัง สะหัสสะกายัง วะรัง พุทโธ นะโม พุทธายะ มาสีสะมานั
ตู้ที่ 5 พระสมเด็จวังหน้าองค์ใหญ่ สร้าง พ.ศ. 2411 ในวาระเฉลิมฉลองการครองราชย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเก้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เพื่อเป็นสิริมงคลของบ้านเมือง
ตู้ที่ 6 , 7 พระสมเด็จวังหน้าองค์ใหญ่ ประดับอัญมณี ด้านหลังติดพระสมเด็จ สร้าง พ.ศ. 2411 ในวาระเฉลิมฉลองการครองราชย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเก้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เพื่อเป็นสิริมงคลของบ้านเมืองตู้ที่ 8 พระสมเด็จ ประดับตัวละครโขน สร้างโดยวังหน้า ปลุกเสกโดยสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี สร้างสมัย รัชกาลที่ 4
ตู้ที่ 9 พระกริ่งปวเรศวังหน้าทรงเครื่อง พระสมเด็จองค์ปฐม พระสยามเทวาธิราช
ตู้ที่ 10 พระสมเด็จวัดระฆัง ประดับบนแผ่นกระดาน พระวังหน้า
ตู้ที่ 11 พระสมเด็จวัดระฆัง หลังอักษรจีน ชาวจีนที่เข้ามาทำมาหากินในเมืองไทยที่มีความเลื่อมใสศรัทธา สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี เป็นผู้สร้าง อาจเป็นคำมงคล แซ่ หรือ หมายถึงองค์สมเด็จโต และให้ สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี อฐิษฐานจิตปลุกเสก
ตู้ที่ 12 พระสมเด็จวัดระฆัง ประดับบนแผ่นกระดาน เป็นสิ่งมงคล เช่น กระดานเป็นรูปนกคุ้ม ปลาตะเพียน น้ำเต้า
ตู้ที่ 13 รวมเหรียญคณาจารย์ มีเหรียญปราบฮ้อ เหรียญเสด็จประภาสยุโรป เหรียญช้างสามเศียร มีเนื้อที่หาชมยาก เช่น เนื้อเงินลงยาหน้าทองคำ ซึ่งจะมีเฉพาะบุคคลชั้นสูงเท่านั้น
ตู้ที่ 14 พระพุทธรูปศิลปะเชียงแสน
ประติมากรรมไทยสมัยเชียงแสน เป็นประติมากรรมในดินแดนสุวรรณภูมิที่นับว่าสร้างขึ้นโดยฝีมือช่างไทยเป็นครั้งแรก เกิดขึ้นราว พุทธศตวรรษที่ ๑๖ - ๒๑ มีปรากฏแพร่หลายอยู่ตามหัวเมืองต่างๆทางภาคเหนือของไทย แหล่งสำคัญอยู่ที่เมืองเชียงแสน วัสดุที่นำมาสร้างงานประติมากรรมมีทั้งปูนปั้น และโลหะต่างๆที่มีค่า จนถึงทองคำบริสุทธิ์
ตู้ที่ 15 พระพุทธรูปศิลปะสุโขทัย
ศิลปะสุโขทัย เริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ประกาศตั้งกรุงสุโขทัยเป็นอิสระไม่ขึ้นแก่อาณาจักรขอมเมื่อราว พุทธศตวรรษที่ ๑๘ ศิลปะสุโขทัยจัดได้ว่าเป็นศิลปะที่งดงามที่สุดและมีลักษณะเป็นของตนเองมากที่สุด พระพุทธรูปในยุคนี้ ลักษณะโดยทั่วไปมีดังนี้คือ รัศมียาว เส้นพระศกขมวดก้นหอย ส่วนมากไม่มีไรพระศก พระขนงโก่ง พระนาสิกงุ้ม พระหนุเสี้ยม หัวพระถันโปน ชายสังฆาฏิยาว ปลายมี ๒ แฉก และย่นเป็นเขี้ยวตะขาบ ฐานส่วนใหญ่เป็นแบบฐานเอียง ตอนกลางโค้งเข้าด้านใน ตรงข้ามกับสมัยเชียงแสน
ตู้ที่ 16 พระพุทธรูปศิลปะอู่ทอง
ลักษณะพระพุทธรูปสมัยอู่ทอง พุทธศตวรรษที่ ๑๗ – ๑๙ พระพุทธรูปสมัยอู่ทองมีลักษณะงดงามและกล้าหาญอย่างนักรบ เข้มแข็งดูน่าเกรงขาม พระวรกายสูงชะลูด พระเศียรมีสัณฐานรูปคล้ายบาตรคว่ำ พระเกศาเป็นหนามขนุนละเอียดกว่าสมัยสุโขทัยมาก มีไรพระศกเป็นกรอบรอบวงพระพักตร์ พระพักตร์แบน พระหนุกว้างเป็นรูปคางคน พระเกตุมาลาเป็นเปลวบ้าง เป็นแบบฝาชีครอบบ้าง พระนลาตกว้าง สังฆาฏิสั้นเหนือพระถันคล้ายสมัยเชียงแสนสิงห์หนึ่งก็มี ส่วนใหญ่สังฆาฏิจะแบนยาวลงมาจรดพระนาภี ปลายสังฆาฏิตัดตรงก็มี เฉียงก็มี เป็นแฉกเขี้ยวตะขาบก็มี มีขอบอันตรวาสก(สะบง)ชัดเจน นั่งขัดสมาธิราบเป็นส่วนใหญ่หรือขัดสมาธิเพชรก็มี(มีน้อย) ปางมารวิชัยหรือปางสมาธิ(มีน้อย) ฐานเป็นแบบหน้ากระดาน ๑ – ๒ ชั้นมีสันเกลี้ยงแอ่นเข้าข้างใน และมีทั้งฐานบัวคว่ำบัวหงาย หรือบัวหงายอย่างเดียวอีกด้วย
ตู้ที่ D 1/5
พระพุทธรูปทองคำ เชื่อว่า เป็นธาตุที่เลิศที่สุด อานิสงส์แรง พุทธคุณเป็นเลิศ องค์เชียงแสน น้ำหนัก 46 กิโลกรัม องค์สุโขทัย น้ำหนัก 23.6 กิโลกรัม องค์อู่ทอง น้ำหนัก 23.4 กิโลกรัม
ตู้ที่ D 5/5
พระ...............ได้รับพระราชทาน จาก สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก พระมหากษัตริย์ ประเทศภูฏาน
ตู้ที่ C 1/3
พระประจำวันเกิด รูปหล่อ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช รูปหล่อ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และสิ่งมงคล ประดับอัญมณี สร้างราวปี พ.ศ. 2411 เฉลิมฉลองการขึ้นครองราชย์สมบัติของ รัชกาลที่ 5 เพื่อความมั่นคง และเป็นสิริมงคลของบ้านเมือง
ตู้ที่ B 2/5
ปู่ฤษีนารอด และพระรอด พระคง
สร้างเพื่อเพิ่มเกณฑ์ชะตาพระนคร และจตุรพุทธปราการให้เรี่ยวแรงแข็งขอบยิ่งขึ้น เป็นอเนกประการ”
คาถาบูชาปู่ฤาษีนารอด
มะอะอุ สิวังพรหมา จิตตัง มานิมา ฤ ฤา ฤ ฤา พ่อปู่นารอด มานิมา ประสิทธิเม … ภาวนา ๓ จบ …
พระซุ้มกอ มีกูไว้แล้วไม่จน คือถ้อยคำประจำองค์พระซุ้มกอ ซึ่งหมายถึง พระซุ้มกอสุดยอดทางโชคลาภ เมตตามหานิยม ใครมีไว้แล้วจะร่ำรวย เป็นมหาเศรษฐี เจริญรุ่งเรือง ในชีวิต ทำให้ผู้คนทั้งประเทศปรารถนาที่จะเป็นเจ้าของพระซุ้มกอ
ตู้ที่ B 5/5
พระมหาสังข์เวียนขวา สร้างโดยวังหน้า ปลุกเสกโดย สมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี เป็นสิ่งมหามงคลที่หาชมยากมาก
พระมหาสังข์" สิ่งมงคลตามธรรมชาติ ใช้ในงานสำคัญ พระราชพิธีต่าง ๆ หนึ่งในราชูปโภคเครื่องใช้ของพระมหากษัตริย์ สิ่งใดออกจากสังข์ล้วนมงคล มีความเชื่อกันว่าอานุภาพของสังข์มงคลจะบังเกิดแก่ผู้ครอบครอง ประกอบด้วย เงินทองไม่ขาดมือ อุดมด้วยทรัพย์สมบัติ บริวาร มีโชคลาภ ทำการงานสำเร็จทุกประการ
ความแตกต่างระหว่าง "สังข์" บูชาทั่วไปและ "มหาสังข์" สังข์บูชาทั่วไปเป็นสังข์เวียนซ้ายส่วน"มหาสังข์"เป็นสังข์เวียนขวานับเป็นสังข์ที่หายาก และมีความเชื่อกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มากกว่า "สังข์" ทั่วไปจึงเป็นที่นิยมของเจ้านายระดับสูง และผู้มีชื่อเสียง ที่มีเก็บไว้บูชา และมักใช้ในพระราชพิธีสำคัญ
วิธีสังเกตสังข์เวียนขวาหรือสังข์เวียนขวาซ้าย
ตามคติพราหมณ์ให้ถือหอยหงายขึ้นเอาทางปลายวนม้วนแหลมออกจากตัวเหมือนถือ "สังข์" ในการรดน้ำ ถ้าช่องเปิดหรือปากหอยอยู่ทางด้านขวามือถือว่าเป็นสังข์เวียนขวา หรือ สังข์ทักษิณาวัฏ ถ้าช่องเปิดอยู่ทางซ้ายมือถือว่าเป็นสังเวียนซ้ายหรือ สังข์อุตราวัฏ
ตู้ที่ A 1/4
สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี หน้าตัก 20 นิ้ว พร้อมพัดยศ และหีบสมบัติ ประดับอัญมณี สร้างราวปี พ.ศ. 2411 เฉลิมฉลองการขึ้นครองราชย์สมบัติของ รัชกาลที่ 5 เพื่อความมั่นคง และเป็นสิริมงคลของบ้านเมือง
ตู้ที่ A 2/4
จุดรวมพระสำคัญที่ประเมินค่ามิได้ หาชมยากมากๆ
พระกริ่งปวเรศ ทองคำ พระซุ้มกอทองคำ พระนางพญาทองคำ พระผงสุพรรณทองคำ พระรอดทองคำ พระสมเด็จทองคำ พระสมเด็จเนื้องาช้าง พระสมเด็จเนื้อหยก พระสมเด็จวังหน้า บุทองคำ
ตู้ที่ B 4/5
พระกรุนาดูน หรือ พระกรุพระธาตุนาดูน พุทธศิลปะทวารวดี เป็นโบราณวัตถุที่มีอายุมากว่า 1,300 ปี พระกรุนี้ได้ถูกฝังอยู่ในชั้นน้ำที่มีแร่เหล็กละลายมาแทรกอยู่ในเนื้อดินเผาเป็นพันๆปี ทำให้มีแร่เหล็กเข้ามาแทรกในเนื้อดินเผาจนแกร่งแบบหินลูกรัง มีพลังพุทธคุณดีมาก
ตู้ที่ B 1/5
รวมพระเกจิดังที่คนไทยเคารพนับถือ
หลวงปู่ ทวด วัดช้างไห้ เหยียบน้ำทะเลจืด พุทธคุณเด่นด้านแคล้วคลาดปลอดภัย
สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี วัดระฆังโฆษิตาราม ผู้สร้างพระสมเด็จ ซึ่งมีพุทธคุณรอบด้าน ทั้ง คงกะพัน มหาเสนห์ มหาลาภ เจริญรุ่งเรือง แคล้วคลาดปลอดภัย
หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า มีวิชาอาคมเวทย์มนต์เก่งมาก เล่ากันว่า สามารถเสกใบไม้ให้เป็นตัวต่อ ตัวแตน เสกหัวปลีให้เป็นกระต่าย เสกก้านกล้วยให้เป็นงูได้ และเรื่องอภินิหารคงกระพันชาตรี มีอีกมากมาย
หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ พุทธคุณเด่นด้านคงกระพัน และมหาอุดเป็นที่สุด
หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เป็นพระผู้เลิศทางธุดงควัตร ปฏิบัติสมถะและวิปัสนา
พระอาจารย์ใหญ่สายพระป่า
หลวงปู่ฝั้น อาจาโร เป็นศิษย์ ของ พระอาจารย์ มั่น ภูริทัตโต มีพุทธคุณเด่นด้านแคล้วคลาดปลอดภัย เมตตามหานิยม
ครูบาศรีวิชัย สิริวิชโย นักบุญแห่งล้านนา พุทธคุณเด่นด้านเมตตา แคล้วคลาดปลอดภัย
หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ พุทธคุณเด่น ด้านเมตตา คงกระพันชาตรี
หลวงพ่อจง พุทธสโร วัดหน้าต่างนอก พุทธคุณเมตตา มหานิยม มหาอำนาจ แคล้าคลาดคงกระพัน กันสัตว์ร้าย
หลวงปู่ทอง อายะนะ วัดราชโยธา หลวงปู่ทอง อายะนะ ท่านเป็นศิษย์น้องของ สมเด็จโต วัดระฆัง และเป็นลูกศิษย์ของ หลวงปู่แสง วัดมณีชลขันธ์ ท่านเป็นพระที่มีวัตรปฏิบัติอันงดงาม เชี่ยวชาญด้านพุทธาคมอย่างลึกซึ้ง
พ่อท่านคล้าย จันทสุวัณโณ วัดสวนขัน วาจาศักดิ์สิทธิ์
หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ ท่านดังเรื่องปลัดขิก เขาพากันเรียกปลัดขิกของท่านว่า ปลัดฉลามเมิน (เพราะเคยมีคนพกปลัดของท่าน ลอยคออยู่กลางดงฉลามแล้วรอดมาได้)
หลวงพ่อเงิน (พระราชธรรมาภรณ์) วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม พระคณาจารย์นักพัฒนา พระเครื่อง และวัตถุมงคลของท่านยอดเยี่ยมด้านคงกระพันชาตรี เปี่ยมด้วยเมตตามหานิยมยิ่งนัก
ตู้ที่ c 2/5
พระไภษัทชยะคุรุ ไวฑูรยประภาตถาคต พระพุทธเจ้าบรมครูแห่งการแพทย์
พระตถาคตเจ้าผู้เป็นบรมครูแห่งยารักษาโรค เป็นที่นิยมนับถือในหมู่ชาวจีนและชาวทิเบตถือกันว่าเป็นพระพุทธเจ้าที่สามารถรักษาโรคทางกายและโรคทางกรรมของสัตว์โลก
พระกริ่งปวเรศ เป็นการสร้างตามความเชื่อว่าเป็นพระไภษัทชยะคุรุ
ตู้ที่ D 4/5
พระพุทธรูปทองคำ หน้าตัก 5 นิ้ว ฐานเงิน สมัยอยุธยา พระสมเด็จวังหน้า เปียกทอง (มีกริ่ง)
พระพุทธรูป
หลวงพ่อ ใจดี อายุกว่า 230 การได้เข้ามากราบสักการะบูชา และปิดทอง หลวงพ่อช่วย หลวงพ่อรุ่ง หลวงพ่อรวย หลวงพ่อสุข หลวงพ่อดี หลวงพ่อมี หลวงพ่อชัย ถือว่าเป็นมงคลแก่ชีวิต จะขอพรอะไร ก็ขอได้ตามใจปรารถนา
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
1. คําบูชาพระรัตนตรัย
อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา, พุทธัง ภะคะวันตัง อภิวาเทมิ
สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม, ธัมมังนะมัสสามิ
สุปะฏิปปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, สังฆัง นะมามิ
พระผู้มีพระภาคเจ้า, เป็นพระอรหันต์ดับเพลิงกิเลสเพลิงทุกข์สิ้นเชิง ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง
ข้าพเจ้าขออภิวาทพระผู้มีพระภาคเจ้า, ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน (กราบ)
พระธรรมเป็นธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้า, ตรัสไว้ดีแล้ว ข้าพเจ้าขอนมัสการพระธรรม (กราบ)
พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า, ปฏิบัติดีแล้ว ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระสงฆ์ (กราบ)
ตู้ที่ 17
พระหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน วัดห้วยเขน วัดท้ายน้ำ ครูบาศรีวิชัย พระสมเด็จ ใหญ่ ด้าย ดี สร้างถวายสมเด็จพระธีรญาณมุณี พระสมเด็จองค์ปฐมสารพัดนึก
ตู้ที่ 18
“พระเบญจภาคี” หรือพระเครื่อง 5 องค์ อันได้แก่ “พระสมเด็จวัดระฆัง” “พระรอด” “พระนางพญา” “พระผงสุพรรณ” และ “พระซุ้มกอ” ซึ่งนับว่าเป็นพระเครื่องเก่าแก่ และเชื่อกันว่ามีพุทธคุณสูง จะปกป้องคุ้มภัยแก่ผู้ครอบครองให้รอดพ้นจากภัยอันตรายทั้งหลาย รวมไปถึงด้านเมตตามหานิยมอีกด้วย ในตู้นี้ มี พระรอด พระซุ้มกอ พระนางพญา พระผงสุพรรณ ส่วนพระสมเด็จวัดระฆัง จะอยู่ในตู้ถัดไป
ตู้ที่ D 2/5
พระบรมสารีริกธาตุ สมเด็จองค์ปฐม พระบรมสารีริกธาตุ พระสมณโคดมพุทธเจ้า และพระธาตุของพระสาวก
พระบรมสารีริกธาตุ เป็นธาตุพิเศษอันเกิดจากพระวรกายของพระพุทธเจ้าผู้ ภายหลังการเสด็จดับขันธปรินิพพาน พระธาตุเป็นธาตุพิเศษอันเกิดจากพระวรกายของพระอรหันต์ ภายหลังการดับขันธนิพพาน
อานิสงส์บูชาพระบรมสารีริกธาตุ - พระธาตุ
1. ไม่ตายด้วยคมศาสตรา-อาวุธของศัตรูผู้มุ่งร้าย
2. ปัญหาอุปสรรคผ่านพ้น ขอให้ตั้งใจจริงบูชาจริง
3. ประกอบการค้าพาณิชย์ จะเจริญรุ่งเรืองไพบูลย์
4. รับราชการ ยศ ตำแหน่งจะเจริญขึ้นเร็ว และเจริญขึ้นเรื่อยๆ
5. มีเมตตาเสน่ห์มหานิยม มหาโชค-มหาลาภ และคลาดแคล้ว
6. เทวดาอารักษ์คุ้มครองรักษาตลอดกาล
7. ครอบครัวเป็นสุข สงบ ร่มเย็น และเจริญรุ่งเรือง
8. มีฤทธิ์เดช อำนาจ วาสนา บารมีแผ่ไพศาล บริวารจะเคารพ หมู่ชนจะยำเกรง อานิสงส์เป็นไปตามอธิษฐาน
ตู้ที่ 19
พระสมเด็จกรุเพดานโบสถ์วัดระฆัง
พระสมเด็จวัดระฆัง ลงรักปิดทองร่องชาด สร้างในปี 2408 เพื่อแจกกับขุนนางชั้นผู้ใหญ่ และบุคคลสำคัญในสมัยนั้น และเมื่อ สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี มรณภาพ ในปี 2415 ก็ได้น้ำพระส่วนที่ยังเหลืออยู่ มาเก็บบนหลังคาโบสถ์วัดระฆัง ถูกค้นพบครั้งเมื่อมีการบูรณะวัดระฆังในปี 2515
ตู้ที่ 20
พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ แปลก
ตู้ที่ D 3/5
หีบสมบัติประดับอัญมณีที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตะกรุด บล็อกแม่พิมพ์ ตัวผู้ ตัวเมีย ใช้สำหรับพิมพ์พระสมเด็จพระแก้วมรกต สามฤดู
ตู้ที่ 21
รวมพระสมเด็จวังหน้า
ตู้ที่ 22
เครื่องใช้และรูปหล่อองค์ลอยสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ เป็นสมเด็จพระสังฆราชไทย พระองค์ที่ 8 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
ตู้ที่ C C/5
พระปวเรศวร สร้างพระสายวังหน้ามีการสร้างพระกริ่งออกมามากมายในยุคของพระองค์ท่าน มีประเสริมเติมแต่ง เช่น บรรจุในเก๋ง มีประภามณฑล รัศมี และเป็นต้นแบบของพระกริ่งปวเรศ
ตู้ที่ 23
พระสมเด็จวัดเกศไชโย พิมพ์ต่างๆ
ตู้ที่ C 4/5
สิ่งมงคล ประดับอัญมณี สร้างราวปี พ.ศ. 2411 เฉลิมฉลองการขึ้นครองราชย์สมบัติของ รัชกาลที่ 5 เพื่อความมั่นคง และเป็นสิริมงคลของบ้านเมือง
ตู้ที่ 24
พระสมเด็จกรุวัดกัลยา กรุวัดบางขุนพรหม
ตู้ที่ C 5/5
วัตถุมงคล ประดับอัญมณี สร้อย จี้ หยก สร้อย จี้ หิน สร้อยจี้แก้ว สร้างราวปี พ.ศ. 2411 พระสมเด็จวัดระฆังประดับบนแผ่นกระดาน
ตู้ที่ 25
พระสมเด็จวังหน้ารวมพิมพ์แปลก
ตู้ที่ 26
พระสมเด็จวัดระฆัง ยุคช่างชาวบ้านแกะพิมพ์ พระสมเด็จวัดระฆังยุคช่างหลวงยุคต้น หลวงสิทธิการ โยธารักษ์ พระสมเด็จวัดระฆังยุคช่างหลวงยุคกลาง หลวงวิจิตร นฤมล
ตู้ที่ 27
พระสมเด็จวัดระฆังยุคช่างหลวงยุคปลาย หลวงวิจารณ์ เจียรนัย
ตู้ที่ B 3/5
สร้อยประคำ เหล็กไหลไพรดำ สร้อยประคำหยก สร้อยประคำหิน สร้อยประคำแก้ว สร้างโดยวังหน้า ใช้ฝึกจิต และช่วยรักษาโรค มีความศักดิ์สิทธิ์ พุทธคุณดีเยี่ยม อธิษฐานจิตปลุกเสก โดยสมเด็จสมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี และพระสงฆ์ที่มีความสำคัญ
ตู้ที่ A 3/4
พระสมเด็จวัดระฆัง และพระสมเด็จพิมพ์แปลก ในหีบสมบัติ
ตู้ที่ 28
ชุดบาตรและขันน้ำมนต์ (วัดบางหว้าใหญ่) ซึ่งปัจจุบันเป็นวัดระฆังโฆษิตาราม
ตู้ที่ 29
พระเนื้อดิน / พระเนื้อชิน ที่เป็นที่นิยม
ตู้ที่ A 4/4
วัตถุมงคล หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดระหารไร่ จังหวัดระยอง
ตู้ที่ 30
พระปิดตา ของเกจิดัง ยอดนิยม บนแผ่นดินสยาม
ตู้ที่ 31
เครื่องราง เบี้ยแก้ เขี้ยวเสือ กำไรหางช้าง ช้างที่ทำจากไม้ขนุนที่ยืนต้นตาย
