อโกลนีมา
ชื่อวิทยาศาสตร์
|
:
|
Aglaonema |
ถิ่นกำเนิด
|
:
|
เขตร้อน บริเวณเส้นศูนย์สูตร ของเอเชีย |
วงษ์
|
:
|
ARACEAE |
ลักษณะ
|
:
|
ไม้พุ่มขนาดเล็ก อายุหลายปี |
ใบ
|
:
|
ใบเดี่ยว เรียงเวียน รูปไข่หรือใบหอก ปลายแหลมมีติ่ง โคนสอบ ขอบใบเรียบ มีใบหนาคล้ายแผ่นหนัง ค่อนข้างเรียบ เกลี้ยง เป็นมัน ก้านใบกลมเป็นร่องสีเขียว ลิ้นใบยาวแผ่กว้างไปตามความยาวของกาบใบ กาบใบเป็นร่องห่อหุ้มลำต้น แผ่นใบสีเขียว ขอบใบและบริเวณใกล้เส้นกลางใบสีเขียวเข้มยาวตลอดแนวใบจนสุดปลาย เส้นกลางใบนูนเด่นชัดบริเวณโคนและค่อยๆเล็กลงจนสุดปลายใบ |
ดอก
|
:
|
ออกดอกเป็นช่อแบบช่อเชิงลดมีกาบ ออกบริเวณซอกใบ ดอกสีขาว |
การดูแลรักษา
|
||
ดิน
|
:
|
ดินร่วนระบายน้ำดี ต้องการน้ำปริมาณมาก แสงแดดรำไร |
การขยายพันธุ์
|
:
|
เพาะเมล็ด ตอนกิ่ง ปักชำลำต้น แยกหน่อ |
ประโยชน์
|
:
|
ปลูกเป็นไม้กระถาง วางประดับในอาคาร เป็นไม้มงคล |
ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นราชาแห่งไม้ประดับ เป็นที่นิยมปลูกกันอย่างแพร่หลาย ณ ปัจจุบัน โดยเจ้าต้นอโกลนีมานี้มีลักษณะเป็นไม้พุ่มที่มีความสวยงาม ขนาดเล็ก กระทัดรัด ใบมีสี และลวดลายที่หลากหลาย อีกอย่างเป็นไม้ประดับที่ไม่มีวันโรยราไปไหน มีชื่อที่เป็นมงคล เช่น อัญมณี, สยามออรอล่า, เพชรน้ำหนึ่ง, สุขสมใจปอง เป็นต้น และยังคงที่มีการพัฒนาและปรับปรุงสายพันธุ์มาอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงแต่ความสวยงามของอโกลนีมาเท่านั้น แต่ความสามารถในการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ คาร์บอนมอนน็อกไซด์ และก๊าซพิษอื่น ๆ ได้ดีจึงเป็นเหมือนพืชที่ช่วยฟอกอากาศ อีกทั้งยังเป็นไม้มงคลที่ช่วยเสริมสิริมงคล และให้โชคลาภแก่ผู้ปลูกอีกด้วย